21.12.58

The Force Awaken and then..... we sleep.




ระวังมีสปอยอ่อนๆ



























เมื่อวันศุกร์ 18 ธันวาคม ตื๊อคุณสามีให้พาไปดู Star Wars 7: The Force Awken .... แบบคนทรัพย์จางระดับอันตราย .... //คิดดูสิ ต้องยืมเงินคนอื่นมา เพื่อไปดูอ่ะ//

แต่ก็ยอม มันห้ามใจไม่ไหวจริงๆ อะแหละ ._.

เราเองไปสภาพที่ปวดตาพอสมควร คือประชุมทั้งวัน น่าจะโทรม แต่ผัวจับแต่งตัว เลยดูเกาหลีชิบหาย เสียดายหน้าไม่ได้แต่ง ส่วนผัวหล่ออยู่แล้ว //ข้ามๆ ไป

ตอนที่เราไปถึงก็ประมาณ 2 ทุ่ม เลยลงรอบที่ดูเป็น 21.10น. เพราะรอบสองทุ่มไม่เหลือที่นั่งโซนกลางเลย (เข็ดจากที่ไปดู Mocking Jay part 2 แล้วนั่งริม) ระหว่างนั้นก็นั่งดูตัวอย่างหนัง ดูคนเดินไปเดินมา ก่อนจะลุกไปซื้ออะไรกินเพราะหิว ซึ่งนึกึ้นมาได้ตอนก่อนหนังฉายครึ่งชั่วโมง

หาอะไรกินที่ชั้นใต้ดิน โซนนี้ไม่ได้มาเป็นชาติแล้ว มีร้านขายของนำเข้าจากญี่ปุ่นด้วย เหมือนร้านบูทหรือวัตสัน อะไรแบบนั้นแหละ คิดอยู่ว่าถ้าว่างๆ ก็จะมาดูอีกเพราะเครื่องสำอางบลาๆ เยอะละลานตาไปหมดเบยยย //ระวังทรัพย์จาง//

แล้วเรากับพี่ปอก็เข้าโรง พอเข้าปุ๊บก็เจอเพลงนี้...


ขอบอกก่อนว่า เมื่อตอนเย็น ก็เจอเพลงนี้ไปรอบนึงในวิทยุ
คือเพลงมันเนื้อหาเสี่ยวมาก.... แต่ก็ดังมาก
แต่ไม่คิดว่าจะเจอสองรอบติดในวันเดียว :v

ตอนที่รอฉาย โฆษณารถก็ล่อไปสามยี่ห้อ ไม่รู้ว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มมั่งมั้ย ก็ภาวนาว่าให้เป็นอย่างนั้น....
ส่วนในโรง คนก็ไม่ได้เยอะเต็มโรง แล้วพอเรานั่งกลาง ฝั่งขวามือเราก็มีคนนั่งแถวเดียวกันแค่สองคน ออกสบายชิบหาย

ระหว่างนั่งดู มีเสียงรบกวนบ้างนิดหน่อย แต่ไม่มีการตะโกน โห่ร้อง หรือปรบมือ มารยาทดีกันจริงๆ!

หลังจากที่ดูเสร็จ ก็เรียกได้ว่า โรงซาวน์แทร็คไม่มีเห็นการณ์สปอยหน้าโรงนะฮะ ถถถถถถ
กว่าหนังจะจบ ก็เกือบเที่ยงคืน แต่ว่า ยังมีคนอยู่รอบสุดท้ายค่ะ!!!!! พวกเอ็งช่างอึดทรหด

รีวิว:
*ลง Facebook ไว้เมื่อตอนเที่ยงคืน เข้าวันที่19

ให้คะแนนไม่ได้ คืออิ่ม คือดีงาม คือพีค คือกูรำคาญแฟลชในฉากแรกมากๆ นะคะ (ฝีมือ J.J. Abrams) แต่หลังจากนั้นสมองเราก็ไหลออกไปหมดเลย ปล. ท่านเฟลให้ 8.5 คะแนน หักเรื่องนักแสดงใหม่บางคนที่แสดงยังไม่สุดนัก กับฉากจบที่ไม่เหมือนภาคก่อนๆ
เพิ่มเติม - ฉากสุดท้ายเลย:
ถึงจะโดนท่านเฟลหักไป .5 เพราะไม่ทำแบบสตาร์วอส์ภาคที่ผ่านๆ มา แต่สำหรับเรา มันพีคพอสมควร และทำให้ชวนรอตอนต่อไป อีกทั้งแววตานักแสดงก็แบบ ... เก่งว่ะ นี่กลับมาเล่นในรอบกี่ปีวะ แต่สื่ออารมณ์ได้แบบสุดลิ่มทิ่มประตูเลย
แต่ก็นั่นแหละ ปิดฉากไม่เหมือนของเดิม ไฮเปอร์สเปซวาบแล้วหุบ ขึ้นเครดิต หรือแบบอื่นๆ อะไรก็ว่าไป
เป็นฉากจบที่สดใหม่มาก แฟนบอยอาจจะตะหงิดเรื่องนี้ แต่เรามันคนดูปกติ ก็เลยบวกคะแนนไปเพราะฉากนี้ซะงั้น
ปล. นี่กูดูโรง7 ตลอดเลยว่ะ 6 เรื่องแล้ว อะไรนักหนา 55555
ปลล. โฆษณารถ 3 ยี่ห้อ ไม่นับซาวน์เช็คเพราะอันนั้นขาประจำอยู่แล้ว
ปลลล. มีฝรั่งยกครอบครัวมาดู มีสาวเท่คนนึงด้วย จริงๆเจอตอนซื้อตั๋ว ไม่คิดว่าดูรอบเดียวกัน แต่คนละที่นั่ง แหม่ๆ~ //อันนี้ไม่เกี่ยวกับหนัง lol //

*อันนี้เพิ่มเติมอีกที - ยาหวานสำหรับหนังเรื่องนี้
1. เรย์คือดีงาม เด็กใหม่คนนี้อนาคตไกลลิบลับ เป็นดาวระยับสุดขอบฟ้า
2. ได้ข่าวว่าแฮริสันฟอร์ดรับค่าตัวสูงกว่าชาวบ้านหลายเท่า แต่ก็โอเค สมควรได้ค่ะลุง!!!!
3. ฉากที่ชอบมากๆ เอาที่น้ำตาเล็ดเลยนะคะ ก็คือฉากที่ผัวเมียกลับมาเจอกันนะแหละค่ะ แสงพระอาทิตย์อ่อนๆ แล้วก็คำพูดที่ออกมาจากปากทั้งสองคนมัน แหม่.... คิดถึงคืนวันเก่าๆ นะคะ ... แต่รอหลังออกโรงก่อน น่าจะเห็นอันนี้เป็นโควทเด่นเลย
4. ดังนั้น เรื่องนี้เป็นการกลับมาของตัวละครเก่าๆ และใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ทุกคนยังแสดงได้อย่างเข้าถึงบทบาทเช่นเดิมค่ะ ถึงบางคนจะไม่ได้แสดงนานแล้ว //ปรบมือ//
5. โพ ดาเมรอน แม่งหล่อค่ะ หล่อที่สุดไปเลย - หมอบลูในซัคเกอร์พันช์
6. แต่ฝั่งดาร์คนี่คนหล่อๆ มีเยอะกว่ามั้ง.... General Hux - Bill Weasley ในแฮรี่ฯ ไง
6/1 เดธสตาร์ใหม่แม่งแจ่มบะละคั่ก!!! ไม่เสียแรงที่เราจอยเดอะดาร์คไซด์ //อันนี้ลั่นมาก//
6/2 ไม่คุ้นหน้าสโน้คเลยใช่ป่ะ? นั่นแหละกอลั่มใน LOTR
6/3 ไคโรน เลนเป็นพระเอกเรื่องนี้ จบนะ.
7. ฝั่งสว่าง นอกจากโพแล้ว เราไม่สนใครนอกจากเรย์
7.1 ชิววี่เป็นพระเอกฝั่งสว่าง จบนะ.
7.2 เรย์มีปริศนาเยอะมาก ทำให้อยากไปดูภาคถัดไปหนักกว่าเดิมอีก ง่อวววว
8. ตอนจบชวนติดตามต่ออยู่แล้วนะ พอมาทวนเนื้อเรื่องทีหลัง แม่งยิ่งอยากดูเร็วๆ
9. ดังนั้น ใครอยากดู ไปดูเถอะ คุ้มค่าตั๋วชิบหายเลย
10. แต่ถ้าใครไม่ชอบ อย่าไปดู เพราะทุกอย่าง .... เกือบเป๊ะกับขนบเดิมของสตาร์วอร์ส
ไม่ว่าจะเป็น ไฮเปอร์สเปซ/ ระเบิดในฉากที่บางฉากแม่งโคตรจงใจ/ ยานต่างๆ/ ความฉลาดของสตอร์มทรูปเปอร์ คือใครไม่ชอบหนังแนวนี้คือไม่ต้องไปดู มันเว่อร์

จบวันด้วยการนอนยาวๆ ตื่นอีกทีก็เที่ยงวันเสาร์แล้วฮ่ะ.
* เป็นความเห็นส่วนบุคคล กรุณาดูหนังเพื่อประกอบการพิจารณาอีกที

13.12.58

วันหยุด เก็บบ้านดิรออะไร?

เดือนนี้มีวันหยุดติดกันรัวๆเลยละเนอะ
ช่วงที่หยุดสี่วันติดนี้ ก็ทำอะไรหลายๆอย่าง
ไปเล่นเกมที่ร้าน ซื้อหนังสือ กลับมาก็ต่อชั้นหนังสือ เคลียร์ห้อง
 
ตู้ใหม่ โอนจากตู้เก่ามาตู้นี้ เลยเกือบเต็มแล้ว


 
ตู้เก่า มังงะที่เก็บในกล่องพัสดุก็เอามาไว้ตรงนี้ มีที่ว่างพอสมควร

ตอนแรกคิดว่าจะซื้อตู้ที่สาม แต่ดูที่ว่างแล้ว น่าจะรับมือกับมังงะ/นิยาย ได้อีกหลายเล่ม เลยยังไม่ซื้อ

นอกจากนี้ก็เอาไอ้เด็ก เ--ี้ยอุมารุมาถ่ายรูปเล่น


มือท่านเฟลกำลังถ่ายรูป เราถ่ายอีกที //ลั่น 55555//

รูปที่เหลือลงเฟสบุ๊คแล้ว

--------------------------------------------------------------

วันหยุดก็สนุกดี มีอะไรทำ ถึงจะไม่มากมาย แต่ก็ยังดีกว่านอน

ก็ตามนี้แหละ 

ปีใหม่เดี๋ยวอัพเดทกันต่อ อุเหะๆๆ





8.12.58

Buy back - 2000 years later-








2000 ปีแล้วที่ไม่ได้อัพเดทไดอารี่เลย (จริงๆคือ2ปีนะ เราเล่นมุข)
เรามีเรื่องมากมายที่อยากจะเขียน แต่ว่า ก็ลืมไปแล้ว
ส่วนใหญ่ก็ลงในเฟซบุ๊ค เขียนเป็นช้อตโน๊ตสั้นๆ ว่าคิดอะไรยังไง
แต่มันก็ทำให้นิสัยเสียนะ เริ่มเขียนอะไรสั้นลงเรื่อยๆ
จนมารู้ตัวอีกทีก็.... เขียนอะไรยาวๆไม่เป็นแล้วล่ะนะ -3-

-------------------------

เอาล่ะ ไหนๆเราก็กลับมาเขียนไดอารี่แล้ว ก็จะลองเขียนสักเรื่องนึงแล้วกัน //เป็นภาคบังคับ เพราะมึงซื้อใบวาร์ปกลับมาที่เว็บนี้แล้ว ฮ่าๆๆ//
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนี้ เราไม่ได้เขียนนิยายเลยล่ะ 
เ ร า ติ ด เ ก ม ม า ก
กลายเป็นพนักงานเงินเดือนที่รอจังหวะสบโอกาสเมื่อไหร่ก็เล่นเกม
(บ้าจัง อย่างกับคนแก่เลย)
และเมื่อนิยายไม่ได้เขียน มันก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าเมื่อเร็วๆนี้จะมีคนบอกว่า "เฮ้ยมึง เดี๋ยวกูส่งนิยายเลซี่ที่เหลือให้เร็วๆนี้แหละ" ก็ตาม
ม่ายยย ล่ะ! มันไม่เสร็จง่ายๆหรอก เชื่อเราสิ //หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง//
ติดเกมทำให้อะไรหลายอย่างในชีวิตเพี้ยนนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Topic ที่คุยกัน ก็มีแต่เกม สมองคิดแต่ว่า นี่เราต้องเล่นเกมนี้เกมนั้น เล่นไปถึงจุดๆไหน วันไหนมีอีเว้นท์พิเศษนี่เกือบเต็มความจำสมองเลยทีเดียว
พอมาคิดแล้วก็คงต้องเพลา
แต่พอมามองงานที่กองบนโต๊ะตัวเองก็... ให้ตายสิ กลับไปเล่นเกมต่อดีกว่า

--------------------------

2 ปีที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตประมาณนี้แหละ
จนกระทั่งมันมีโปรเจคท์พิเศษที่แหม..... อยากเคี่ยวเข็ญให้ด้วยความสเน่หาเลย //จิตใจเอนเอียงสุดๆ//
นั่นคือโปรเจคท์ "codename: FELTA"
Base on true story of unimportant person  
แต่ก็คงต้องร้องเพลงรอต่อไปเนื่องจากเจ้าของโครงเรื่องก็ขี้เกียจพอกัน
แค่อีเว้นท์คันโคเระ หรือหนทางสู่ 4K (MMR) ก็หมดเวลานั่งเรียบเรียงแล้ว
ฮ่ะๆๆ
เรื่องก็มีอยู่เท่านี้
แต่เรากลับมาเขียนไดอารี่แล้วนะ
ด้วยรัก จุ๊บๆ



MIKA DOMINICA



------------------------------------------------

8.2.58

การกลับมาอีกครั้งของมิกะ โดมินิก้า

สำหรับวันนี้ นี่คือการกลับมาในรอบหลายเดือนของมิกะ โดมินิก้า เจ้าของโหลยาดอง Altoriun Trilogy
พูดแล้วก็ฮา แต่ทว่าวันนี้ไม่ได้มาพูดถึงการทุบโหลยาดองแต่อย่างใด

หวังว่าทุกคนสบายดี 

คิดไว้ว่าจะเขียนอะไรมากมายแต่ก็ลืมซะแล้วล่ะค่ะ

ขอโทษนะคะ แหะๆ

-Mika Dominica-